ข่าวสาร & นวัตกรรม

ย้อนกลับไปเมื่อราว 3-4 ปีก่อน ซึ่งเป็นที่มาของจุดเริ่มต้นการตัดสินใจลุยธุรกิจใหม่ด้วยตัวเองในวัยเพียง 25 ปี แทนการสานต่อธุรกิจทางด้านผ้า และอสังหาริมทรัพย์ของครอบครัว “สันติ” เปิดใจว่ามี 2 แรงผลักดันสำคัญ

ประการแรกคือ พื้นฐานของครอบครัวซึ่งปลูกฝังในเรื่องการมองหาโอกาสในตลาด แล้วพยายามคิดและพัฒนาสินค้าหรือบริการขึ้นมาเพื่อให้ตอบโจทย์ความต้องการเหล่านั้น จากในยุคของคุณทวดที่เข้ามาทำธุรกิจเทรดดิ้งผ้ายีนส์ แล้วต่อยอดธุรกิจมาเรื่อยๆ จนในยุคของคุณปู่มีโรง งานการผลิตของตัวเอง และในยุคของคุณพ่อก็สามารถขยายธุรกิจให้มีครบถ้วนมากขึ้น จนสามารถผลิตและย้อม กำหนดสเปกของเนื้อผ้าได้เองทุกอย่างแทนการซื้อจากบริษัทผ้าอื่นๆ รวมถึงธุรกิจไปทางด้านอสังหาริมทรัพย์ ภายใต้ชื่อตระกูล “ศรีชวาลา” จนเป็นที่รู้จักไปทั่วเช่นทุกวันนี้ ข้อมูลเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่าทางด้านครอบครัวเปิดโอกาสให้สมาชิกทุกคนมีอิสระในการคิด และทำในสิ่งที่ชื่นชอบได้ แต่ต้องอยู่บนพื้นฐานของความเป็นไปได้

เหตุผลสำคัญถัดมาที่ทำให้ก้าวเข้าสู่ธุรกิจหลอดไฟ LED มาจากการเข้าศึกษาที่ Babson College สหรัฐอเมริกา ซึ่งทางมหาวิทยาลัยได้สนับ สนุนให้นักศึกษาทุกคนทำธุรกิจของตัวเอง โดยธุรกิจนั้นต้องมีส่วนช่วยแก้ปัญหาในสังคม หรือเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติ ส่วนผลกำไร คือเรื่องรองลงมา

จากโจทย์ดังกล่าวจึงได้มาศึกษาเชิงลึกแล้วพบว่าประเทศไทยให้ความสำคัญกับการประหยัดพลังงาน รัฐบาลส่งเสริมให้ทุกหน่วยงาน ทุกองค์ กรทำโครงการประหยัดพลังงานทุกปี เพราะในบ้านเราไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ครอบคลุมความต้องการของภาคอุตสาหกรรมและประชาชน ยังจำเป็นต้องซื้อไฟฟ้าจากต่างประเทศปีละหลายหมื่นล้านบาทประกอบกับธุรกิจของครอบครัวที่ทำทั้งโรงงานอุตสาหกรรมผ้า และโรงแรม ทำให้เราเห็นปัญหาหนึ่งที่เกิดขึ้น คือการใช้ทรัพยากรทางด้าน “พลังงาน” ที่สูงมาก ซึ่งเฉพาะพลังงานทางด้านแสงสว่าง ในแต่ละปีต้องเสียไปมาก กว่า 10 ล้านบาท

คำถามคือ ลดการใช้พลังงานแสงสว่างลงได้อย่างไร คำตอบคือ นวัตกรรมของหลอดไฟ LEDช่วยลดการใช้พลังงานไฟฟ้าตั้งแต่ 50% ขึ้นไปเมื่อเทียบกับหลอดไฟเดิมประเภทเดียวกันที่ใช้อยู่แถมยังให้ความสว่างที่มากกว่า การติดตั้งทำได้ง่ายและยืดอายุการใช้งานได้นานกว่าหลอดไฟปกติหลายเท่า

เมื่อสนใจธุรกิจเกี่ยวกับไฟ LED แล้ว จึงตัดสินใจเริ่มต้นศึกษาถึงผลิตภัณฑ์นี้อย่างจริงจัง โดยเริ่มที่บริษัทเมนสตรีมที่ผู้บริโภคส่วนใหญ่รู้จักกัน แล้วก็พบว่าผลิตภัณฑ์ของกลุ่มนี้ตอบโจทย์ตลาดกลางตลาดผู้บริโภคทั่วไปที่ซื้อไปใช้ในบ้าน แต่ไม่ตอบโจทย์อุตสาหกรรมที่ต้องใช้งานมาก กว่า 12 ชม./วันจนในที่สุดได้มาเจอกับผู้ผลิตรายใหญ่สัญชาติอเมริกาอย่าง ThinkLite ซึ่งทำเฉพาะตัวหลอดไฟคุณภาพสูง มาตรฐาน UL (Underwriters Laboratories) ซึ่งสินค้าที่ผ่านมาตรฐานนี้ไม่เพียงแค่ต้องปลอดภัยแต่ตรวจสอบถึงคุณภาพ

สันติ ศรีชวาลา

 ความเชื่อมั่น หัวใจสำคัญของธุรกิจ

หลังจากใช้เวลาในการศึกษาทั้งในเชิงเทคนิคและระบบบริหารจัดแบรนด์จนมั่นใจว่า หลอดไฟแอลอีดีของ ThinkLite มีคุณภาพดี เหมาะกับกลุ่มธุรกิจอุตสาหกรรมต่างๆ “สันติ” จึงมุ่งมั่นที่จะสร้างแบรนด์ ThinkLite ให้เกิดขึ้นในตลาดไทย และหวังเป็นฟันเฟืองเล็กๆ ที่มีส่วนช่วยขับเคลื่อนให้ลดการใช้พลังงานภายในประเทศลงได้บ้างไม่มากก็น้อย

โรงงานอุตสาหกรรมในไทยมีเยอะมาก มูลค่าของหลอดไฟมีนับหลายหมื่นล้านบาท ซึ่งเจ้าของธุรกิจส่วนใหญ่ก็มีความต้องการที่จะประหยัดพลังงานไฟฟ้าอยู่ ดังนั้นหลอดไฟแอลอีดีที่มีคุณสมบัติช่วยลดต้นทุนทางด้านไฟฟ้าได้ ย่อมเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งส่วนตัวสันติ เชื่อว่า ด้วยจุดเด่นของ หลอดไฟ Led ThinkLite Thailand ที่แตกต่างไปจากผู้เล่นในตลาดเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการรับประกันสินค้าที่ต่อเนื่องถึง 5 ปี ในขณะที่ทั่วไปอยู่ที่ 1-3 ปี รวมถึงรับประกันแสงลดลงเพียงแค่ 5% ตลอดอายุการใช้งาน ในขณะที่ทั่วไปลดลงถึง 30% ย่อมได้รับความสน ใจจากลูกค้าเจ้าของธุรกิจทั้งรายเล็กรายใหญ่ ทว่าแม้ผลิตภัณฑ์ดีจริง แต่การแจ้งเกิดในตลาดในขณะที่เป็นผู้เล่นรายใหม่ไม่ใช่เรื่องง่ายเช่นกัน

“หลอดไฟแอลอีดี ตอนนี้เป็นสิ่งที่ลูกค้า Need ไม่ใช่ Want แต่อยู่ที่ว่าลูกค้าจะเลือกเราหรือเปล่า”

ทั้งนี้วิธีการที่ “สันติ” เลือกดึงความสนใจจากกลุ่มเป้าหมาย คือ การทำโครงการ “Pay as You Save” หรือ “เปลี่ยนให้ก่อน โดยที่เจ้าของธุรกิจ หรือสถานที่นั้นๆ ไม่ต้องลงทุนจ่ายก่อน”

เรามั่นใจในผลิตภัณฑ์จึงกล้าให้ลูกค้าใช้โดยไม่ต้องลงทุน แต่จะอยู่ในรูปแบบของสัญญาความร่วมมือ คือ หลังจากติดตั้งจะมีหน่วยงานกลางไปตรวจสอบว่า ค่าไฟฟ้าลดลงเท่าไรต่อเดือน ส่วนการชำระเงินในรูปแบบผ่อน คือ แบ่งจ่ายจนกว่าจะครบเต็มจำนวนเงินที่ติดตั้งไฟแอลอีดีไปทั้ง หมด ซึ่งถ้ามองในมุมของลูกค้าประโยชน์ที่จะได้รับนั้นเกิดขึ้นตั้งแต่วันแรกที่ติดตั้ง เพราะช่วยประหยัดทันที แต่ไม่ต้องจ่ายเงินเป็นก้อน ซึ่งการทำแบบนี้ทำให้ลูกค้าเกิดความมั่นใจ และไว้วางใจที่จะใช้บริการของ ThinkLite Thailand เพราะเชื่อได้ว่าเราจะไม่หนีหายไปไหน และพร้อมที่จะให้บริการตลอดเวลา

หลังจากทำโครงการ “Pay as You Save” ขึ้นมาทำให้แบรนด์ ThinkLite Thailand ได้รับการยอมรับอย่างรวดเร็ว เพราะลูกค้าได้ประโยชน์หลายด้าน ทั้งลดต้นทุนได้ทันที และช่วยส่งเสริมภาพลักษณ์ที่ดีในฐานะของผู้ประกอบการที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม พลังงาน ทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างยั่งยืนเพราะทุกวันนี้ผู้บริโภคใส่ใจเลือกใช้สินค้าหรือบริการจากบริษัทที่แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบต่อสังคมมากขึ้นเรื่อยๆ

 

“อินโนเวชั่น” + “เซอร์วิส” จุดแข็งเหนือคู่แข่ง

ประเทศไทยมีโรงงาน มีนิคมอุตสาหกรรมมากแต่มีเพียง 30% เท่านั้นที่เปลี่ยนมาใช้หลอดแอลอีดีโอกาสยังมีอยู่อีกถึง 70% ให้ไขว่คว้า เชื่อว่ามูลค่าไม่ต่ำกว่าแสนล้านบาท โดยสาเหตุไฟแอลอีดีได้รับความสนใจอย่างมากในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา เพราะการทำธุรกิจทุกวันนี้ การแข่งขันมีสูง การที่จะเพิ่มราคาสินค้าหรือบริการเป็นไปได้ยาก ดังนั้นจึงมองไปที่เรื่องของการลดต้นทุนต่างๆ และไฟแอลอีดีก็ถูกพูดถึงเป็นอันดับต้นๆ เพราะ 3 เหตุผลสำคัญ คือประหยัดพลังงานได้จริงๆ, ไม่ต้องลงทุนมาก และสุดท้ายคือ สามารถเปลี่ยน ติดตั้งได้ทันที

ซึ่งแม้ตอนนี้ ThinkLite Thailand จะเริ่มเป็นที่รู้จักมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เรายังคงเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้ลูกค้าได้สิ่งที่ดีที่สุดอยู่เสมอ ปีแรกมีการพัฒนาสินค้าจากอเมริกานี้ให้สามารถนำมาใช้งานได้ตรงกับความต้องการของกลุ่มธุรกิจของคนไทย ที่ต้องการทั้งเรื่องของคุณภาพ และราคาที่สมเหตุสมผล

ในช่วงปีที่ 2 และ 3 ได้พัฒนาเพิ่มชนิดของหลอดไฟแอลอีดีให้มากขึ้น ทั้งในเชิงลึกและกว้างทำให้ ThinkLite Thailand เป็น One Stop Service ทางด้านแสงสว่างที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าทุกกลุ่มทั้งโรงงานอุตสาหกรรม, โรงแรม,โรงพยาบาล, โรงเรียน ฯลฯ รวมถึงปัจจุบันรับผลิตตามความต้องการของลูกค้าโดยเฉพาะได้ (Customize)เพราะมีทีมงานที่เชี่ยวชาญ เทคโนโลยี และโรงงานที่พร้อมผลิตและส่งมอบถึงมือลูกค้าอย่างรวดเร็ว

จากนี้ไป “สันติ” ย้ำว่ายังคงต้องเดินหน้าพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ดียิ่งขึ้น มีสร้างอินโนเวชั่นใหม่อยู่เสมอพร้อมเปิดใจว่า ในต่างประเทศทุกวันนี้ใช้หลอด ไฟแอลอีดีที่ล้ำหน้าไปกว่าราว 5 ปี ดังนั้นส่วนตัวกลยุทธ์การตลาดที่วางไว้รอบด้าน จากนี้ไปอีก 5 ปี ว่าจะนำเข้าผลิตภัณฑ์แอลอีดีแบบไหนเข้ามาจำหน่ายในไทยและเหมาะสมกับภาคอุตสาหกรรมไทยมากที่สุด

นอกจากอินโนเวชั่นแล้วอีกส่วนที่ต้องทำ คือเรื่องของการบริการที่ต้องพร้อมเข้าไปดูแลลูกค้าเสมอเพราะแนวคิดการทำธุรกิจของ ThinkLite Thailand สำหรับ “สันติ” ที่ยึดถือมาโดยตรงคือ บริษัทไม่ใช่ Supplier Lighting ที่มุ่งเรื่องการขายของให้ได้ แต่ทำหน้าที่เป็น Partner Lighting ที่พร้อมให้คำปรึกษาดูแลเรื่องแสงสว่าง เพื่อช่วยลดต้นทุนให้ลูกค้าในทุกวงการ ทุกอุตสาหกรรม

http://www.smmagonline.com/2017/08/08/จับเทรนด์พลังงาน-สร้างข/